ถ้ำไทร เป็นถ้ำที่ไม่ลึกมาก แต่ต้องปีนเขาขึ้นไป พอได้เหงื่อสัก 3 – 4 รอบ เมื่อเดินไปถึงปากทางเข้าถ้ำจะสังเกตเห็นต้นไทรขนาดใหญ่อยู่หน้าถ้ำ และนี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถ้ำแห่งนี้ มีชื่อว่า ถ้ำไทร ภายในถ้ำถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นส่วนสว่าง มีแสงสว่างส่องเข้าไปถึง (เนื่องจากมีช่องให้แสงลอดผ่านได้)
ส่วนที่สองเป็นส่วนมืด ไม่มีแสงสว่างส่องเข้าไปถึง และต้องเดินลงบันไดไปอีกชั้นหนึ่ง (เตรียมไฟฉายไปด้วยนะครับ)
สำหรับส่วนมืดนี้ จะมีทั้งหินงอก หินย้อย อยู่ระหว่างทางเดินเต็มไปหมด (เดินระวังหน่อยนะครับ) หากเดินไปให้สุด เพื่อน ๆ จะเจอกับ หินงอก หินย้อย ที่มีลักษณะเหมือนน้ำตก ดูสวยงามแปลกตามากเลยทีเดียวครับ
สำหรับใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบ ลึกลับน่าค้นหา แนะนำให้ลองมาเดินถ้ำดู แต่แนะนำว่าควรมากันอย่างน้อย 2 คนนะครับ เพราะเผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้ช่วยเหลือกันได้ การเดินทางในที่มืด อับชื้น ลื่น เพียงลำพังมันค่อนข้างอันตรายไปหน่อย
สำหรับรายละเอียดตัวเต็ม ผมไม่ได้ลงไว้ในบทความนี้นะครับ เนื่องจากบทความนี้เป็นเพียงบทความเรื่องเล่าเคล้าประวัติความเป็นมาของ ถ้ำไทร เท่านั้นหากอยากอ่านตัวเต็ม สามารถอ่านได้จากลิงค์ด้านล่างเลย
https://jbtravel88.blogspot.com/2018/06/sai-cave-samroiyod-prachuap-khiri-khan.html