เนื่องจากชาวบ้านแถวนี้ไม่มีสถานที่ทำบุญ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเลย ครั้นจะเดินทางไปยังวัดอื่นก็ดูไม่เป็นสัดส่วนกระจัดกระจายต่างคนต่างไป ดังนั้นชาวบ้านจึงร่วมใจกันสร้าง วัดร่องเสือเต้น ขึ้นมานั่นเอง โดย วัดร่องเสือเต้น นี้ถูกออกแบบโดยช่างฝีมือพื้นบ้านเชียงราย ที่รู้จักกันในนาม สล่านก (คำว่า สล่า เป็นภาษาเหนือแปลว่าช่าง แต่มักใช้กับช่างที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างงานด้านสถาปัตยกรรม, จิตรกรรม หรือช่างก่อสร้างทั่วไป ไม่นิยมใช้กับช่างยนต์ ช่างเชื่อม หรือช่างสาย ๆ อื่น ๆ เท่าใดนัก อย่าไปปล่อยไก่เรียก สล่ายนต์ นะครับ) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ นายพุทธา กาบแก้ว ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในยุคต้น ๆ เลยทีเดียว จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเราถึงรู้สึกถึงสไตล์วัดร่องขุ่นเบา ๆ
วัดร่องเสือเต้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม 2548 กว้าง 13 เมตร ยาว 48 เมตร สร้างเสร็จ วันที่ 22 มกราคม 2559 (โอ้ว ! ใช้เวลาสร้างกว่าจะเสร็จ ประมาณ 11 ปี เลยทีเดียว) ด้านหน้าวัดเราจะเห็นเทพ (ไม่แน่ใจว่าเป็นเทพหรือยักษ์ เรียกเทพเอาไว้ก่อนเดี๋ยวเค้าโกรธ) อยู่ 2 ด้านขนาบซ้ายขวา น่าเกรงขามมว๊ากกก แต่แอบยิ้มเบา ๆ ให้เราด้วย
ป้ายหน้าวัดก็ไม่ธรรมดานะครับ ศิลปะวิจิตรตระการตามาก
เดินผ่านประตูเข้ามาในวัดเริ่มรู้สึกร้อน ๆๆๆๆ (เห้ย ไม่ปกติหรือเราจะไม่ถูกกับวัด) ที่ไหนได้ มันสายมากแล้ว แดดร้อนเปรี้ยง ๆ เลยหละ ทางด้านซ้ายมือจะเป็นหอระฆัง ส่วนทางขวามือจะเป็นโซนซื้อของฝาก และวัตถุมงคลใครอยากได้อะไรติดไม้ติดมือเพื่อยืนยันเป็นพยานบุญ ก็จัดไป ไม่ขัดศรัทธาครับ
บริเวณกลาง ๆ พื้นที่วัดจะเห็นสระน้ำพระอุปคุต ซึ่งเค้ากำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่ ก็เลยไม่ได้เก็บภาพเต็ม ๆ มาให้ดูนะครับ ติดนั่งร้านดูไม่สวยเท่าไหร่
หากเราหันหน้าไปทางซ้าย เราจะเห็นสถาปัตยกรรมรูปพระพุทธเจ้ากำลังแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 อยู่ สวยงามมากครับ
ตอนนี้เราจะเข้าไปในโบสถ์กันละนะ ใครมีของถอดออกก่อนให้หมดนะครับ ไม่งั้นเข้าไปแล้วอาจของขึ้นได้
ก่อนที่เราจะเข้าไปในโบสถ์ อ่านป้ายด้านหน้าก่อนนะครับ การใส่ขาสั้น เสื้อผ้าโป๊ โชว์วาบหวิว สวมหมวก ใส่แว่น หรือแต่งกายไม่สุภาพ ไม่ควรเข้านะครับ ให้เกียรติสถานที่ด้วย
ขนาดกระถางธูปยังสวยเลย
เมื่อเดินเข้ามาในโบสถ์ เราจะเห็นพระประธานสีขาวมุกชื่อว่า พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ อยู่ตรงหน้า นับเป็นพระพุทธรูปสีขาวที่สวยสดงดงามมาก ๆ เลยครับ ใบหน้าอมยิ้มเบา ๆ แสดงถึงความเมตตา สำหรับจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ก็ไม่ธรรมดาครับ สีสันสวยงามมาก
อ้อลืมบอกไปว่า ภายในโบสถ์ห้ามยืนถ่ายรูปนะครับ (อาจเป็นเพราะจะบังคนอื่นถ่ายรูปหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ)
หลังจากที่เราเดินออกจากโบสถ์มาแล้ว เหลือบไปเห็นพญานาค เห้ย สวยดี เก็บภาพสักหน่อยดีกว่า
ไปดูด้านหลังโบสถ์กันบ้าง ระหว่างเดินไปเจอครุฑที่กำลังทำท่าเหมือนกำลังสก็อตจั๊มอยู่ เห็นแปลกตาดีเลยเก็บภาพมาฝากกันหน่อย
ด้านหลังโบสถ์สวยงามไม่แพ้ด้านหน้าเลยครับ มี พระพุทธรูปปางห้ามญาติ สีขาวมุกยืนอยู่ด้านหลัง
มีสิงห์ (หรือเค้าเรียกอย่างอื่น) ยืนอยู่บริเวณหัวเสาด้วย ดูเท่ดี อ่อนช้อย แต่เข้มขรึม
ถัดจากส่วนของโบสถ์ เราจะเห็น พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ ที่ใช้สีน้ำเงิน/ทอง เช่นเดียวกับตัวโบสถ์ มี พระศิวลี สีทอง ด้วยครับ ใครที่อยากได้ลาภ หยุดตรงนี้ได้เลย เพราะพระศิวลี เป็นพระอรหันต์ที่เด่นด้านโชคลาภมาก ๆ จะขออะไรก็รีบขออย่ารอให้ถึงวันหน้า นะครับ
เมื่อเดินออกมาห่าง ๆ พระธาตุ และ ตัวโบสถ์ หามุมแจ่ม ๆ แล้วลั่นชัตเตอร์ก็จะได้ภาพแบบด้านล่างมา
การเดินทางไป วัดร่องเสือเต้น คลิป วัดร่องเสือเต้น
(Coming Soon) เวลาทำการ
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 20.00 น. หากมีโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย วัดร่องเสือเต้น เป็นอีกหนึ่งวัดที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดนะครับ และจากการสอบถามคนพื้นที่ เค้าบอกว่า แสงสีภาพวัดตอนกลางคืน (วัดเริ่มเปิดไฟประมาณ 18:00 - 19:00 น.) เป็นช่วงที่สวยงามไม่แพ้ช่วงกลางวันที่ฟ้าเปิดเลยหละ เพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องการไปเก็บภาพแบบไม่เหมือนใคร ลองไปช่วงค่ำ ๆ ดูครับใครไปเก็บภาพช่วงค่ำก็อย่าลืมเอาภาพมาอวดกันบ้างนะ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ