ที่เที่ยวพะเยา วัดอนาลโยทิพยาราม ดอยบุษราคัม ต. สันป่าม่วง จ. พะเยา

ตุลาคม 26, 2563
สายบุญเตรียมตัว เพราะวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ วัดอนาลโยทิพยาราม จ. พะเยา ครับ สำหรับวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่โบราณ ที่ชาวพะเยาให้ความเคารพอย่างมาก ไม่แพ้ วัดศรีโคมคำ (วัดพระเจ้าตนหลวง) วัดประจำจังหวัดพะเยา เลยหละครับ จะสวยงามแค่ไหน เราไปชมพร้อม ๆ กันเลยครับ

วัดอนาลโยทิพยาราม หมู่ที่ 6 บ้านสันป่าม่วง ต. สันป่าม่วง จ. พะเยา ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2525 โดยมี พระธรรมวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อ ไพบูลย์ สุมงฺคโล) เป็นผู้บุกเบิก จากข้อมูลได้ความว่า ก่อนที่หลวงพ่อ ไพบูลย์ จะมาสร้างวัดนี้ ท่านได้นิมิตเห็นคนรูปร่างสูงใหญ่ มาบอกว่า "หากท่านจะมาสร้างวัดที่นี่ ก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ตั้งชื่อวัด ให้เป็นชื่อหลวงปู่ขาว อนาลโย" ซึ่งหลวงพ่อ ไพบูลย์ ก็มิได้ทำตามคนในนิมิตโดยมิได้มีข้อขัดข้องประการใด

ก่อนเราจะไปกันต่อ ผมขออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวัดนี้ก่อน เนื่องจากวัดแห่งนี้ มีจุดสักการะหลายจุด เป็นวัดสายลึก (เดินเข้าไปในทางลึก จะเจอส่วนของจุดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นฐาน ๆ) อีกทั้งยังมีจุดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แยกส่วนออกไปจากตัววัดอีกด้วย ซึ่งผมจะค่อย ๆ นำเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักแต่จะจุดครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง

เมื่อมาถึงด้านหน้า ซุ้มประตูเข้าวัดชั้นที่ 1 เราจะเห็นร้านค้าขายของฝาก หากเดินเลยร้านขายของฝากไปอีกหน่อยจะเจอกับลานจอดรถ

หากเดินเลยบริเวณร้านขายของฝากไปจนสุดจะเจอลานจอดรถ ที่รองรับรถยนต์ได้หลายคันเลยหละ

หากมองไปทางซ้ายจะเห็นห้องน้ำครับ แนะนำให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนไปเที่ยวกันนะครับ

ใครจะจอดตรงนี้หรือขับรถขึ้นไปจอดด้านบนก็ได้ (สามารถขับรถขึ้นไปบริเวณถนนด้านข้าง ซุ้มประตูเข้าวัดชั้นที่ 1 ได้เลย ไปถึงวัดเหมือนกันครับ ภาพด้านล่างคือซุ้มประตูเข้าวัดชั้นที่ 1)

ซุ้มประตูเข้าวัดชั้นที่ 1 (สำหรับคนที่อยากเดินเข้าวัดครับ) ที่เพื่อน ๆ เห็น ทำจากหินแกะสลักลวดลาย มีความสวยงามอ่อนช้อย งานละเอียดมาก

หลังจากที่เราเดินผ่านซุ้มประตูเข้าวัดชั้นที่ 1 ทางด้านหน้ามาแล้ว ก็จะพบกับ เทวดาประจำทางเข้า

ถัดจากเทวดาทางเข้า เดินต่อไปสักนิด เราก็จะเจอกับ บันไดพญานาค เดินกันต่อจ้า

หลังจากผ่านบันได พญานาคมาแล้ว ก่อนที่เราจะเดินเข้าตัววัด จะมีร้านขายอาหารหน้าวัด เผื่อใครหิว ไม่ได้กินอะไรมาก็สามารถฝากท้องตรงนี้ได้

ตรงข้ามกับร้านขายของหน้าวัด จะมีศาลเจ้าแม่กวนอิม และศาลลูกแก้วมังกร ให้สักการะ

ด้านหน้าวัด และด้านขวาของวัด จัดว่างดงามยิ่งนัก เป็นบุญตาจริง ๆ เก็บรูปรัว ๆ สิครับ รออะไร

พญานาคหน้าประตูสวยงามจริง ๆ ครับ

เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาก็จะเห็นแท่นหิน 12 ราศี เอาไว้สำหรับขอพร ตั้งเหรียญกันไป ตามระเบียบ

ด้านซ้ายมือจะมีร้านขายเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูป เทียน และวัตถุมงคล ใครจะซื้ออะไรก็เชิญตรงนี้นะครับ

ผ่านแท่นหินและร้านขายวัตถุมงคลมา ทางซ้ายจะเจอกับ วิหารพระพิฆเนศ

ส่วนทางขวาจะเป็น วิหารพระพุทธรูปปางห้ามญาติ

สำหรับวิหารทางฝั่งขวามือนั้น จะมีทางแยกย่อยลงไป เป็นส่วนของ อาศรมหลวงปู่ขาว

พระนารายณ์ (ใช่หรือเปล่าไม่รู้ ? ใครรู้บอกที)

เดินกันต่อครับ เราก็จะเจอสระน้ำพระอุปคุต

แผ่นศิลาเทวดา (ผมเรียกเองนะ ไม่รู้เค้าเรียกอะไรเหมือนกัน)

เมื่อเดินต่อไป ทางด้านซ้ายเราก็จะเจอกับ "วิหาร ชัยโจ จิตติพลังศรี" เข้าไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ด้านในเราจะพบพระพุทธรูปสำหรับสักการะบูชา

ในบริเวณใกล้เคียงก็จะพบกับ รอยพระพุทธบาทจำลอง

เมื่อเดินต่อไป เราจะพบกับ ลานน้ำพุ ซึ่งมี "วิหารพระหมื่นปี" ทางซ้าย และ "พระพุทธรูปปางนาคปรก" ทางขวา

วิหารพระหมื่นปี สวยมากจริง ๆ ครับ อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาดเลย

ภายใน "วิหารหมื่นปี" มีพระพุทธรูปไว้สักการะบูชาด้วยครับ อย่าลืมไปกราบท่านด้วยนะ

ถัดจาก วิหารพระหมื่นปี ก็จะเป็น วิหารไม้ซึ่งภายในมี หลวงพ่อโต พรมรังสี และเกจิอาจารย์ท่านอื่น ๆ นั่งรอให้ทุกท่านไปกราบสักการะขอพรอยู่

ถัดมาเป็นลานเจดีย์ทรงสูง ที่ควรค่าแก่การเก็บภาพไว้สักหน่อยนะครับ แนะนำให้ถ่ายมุมเสยให้เห็นทั้งองค์เจดีย์เลย จะสวยมาก ภาพด้านล่างนี้ผมถ่ายตอนประมาณบ่าย 2 ให้ถ่ายตามแสง (อย่าย้อนแสง วิ่งไปถ่ายด้านหลังตัวเจดีย์) แล้วเพื่อน ๆ จะได้ท้องฟ้าที่ฟ้าสวยงาม

เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยก็จะพบกับ "พระพุทธเมตตานภาวิสุทธิมงคล" หรือ "พระทองคำ" องค์ใหญ่มหึมา ประดิษฐานตั้งเด่นเป็นสง่า ที่ต้องสักการะบูชาสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้

ส่วนด้านข้างพระทองคำนั้นจะมี "วิหารชโยภาส" ที่หลบซ่อนอยู่ ภายในมีพระประธานที่สวยงามมากไม่แพ้กัน

พระพุทธรูปด้านใน สวยงามไม่ธรรมดาจริง ๆ ใครที่อยากเก็บภาพ แนะนำให้ติดไฟ LED หรือ แฟลชไปด้วย เพราะในวิหารมืดมาก ลองเดินหาสวิทช์ไฟ อยู่ด้านข้างเสาเอาเองนะถ้าไม่ได้พกไฟไป

หลังจากที่เราผ่านพระทองคำมาแล้ว เราจะมาถึงวิหารที่มีการใช้ไม้กับปูนผสมกัน งานประณีตและละเอียดมากครับ

ภายในวิหารนี้จะมีรูปปั้นพระพุทธรูปที่แปลกตามากครับ ทรงชุดทองประดับประดาอย่างเต็มยศ วิบวับมากเลย

ถัดมาทางด้านหลังของพระพุทธรูปทรงชุดทอง เราจะเห็นวิหารเล็ก ๆ ที่ภายในมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง สักการะสิครับ รออะไร

ออกจากวิหารไม้ผสมปูน เราเดินกันต่อไป เราก็จะเจอกับหอสวดมนต์ทำวัตรของพระและเณรครับ

เมื่อเข้าไปด้านใน เราก็จะพบกับพระพุทธรูปและรูปปั้นบุคคลสำคัญ

ออกจากหอสวดมนต์ เดินต่อไป จะสังเกตเห็นหอระฆัง งานปั้นเทวรูปและยักษ์ ระหว่างทางด้วย

อาศรมบำเพ็ญพรตของฤาษีก็มีนะครับ

เมื่อเดินต่อไปจะพบกับป้ายบอกทางไป "หอพระโบราณ หรือ วิหารพระโบราณ" เราก็เดินเข้าไปดูซะหน่อยเพื่อเจอของดี เห็นพระแต่ละองค์แล้ว เก่าจริงครับ (ดูไม่เป็นหรอกครับ เห็นฝุ่นจับ...โอเค ถือว่าเก่าละ)

เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ไปยังจุดถัดไป นั่นก็คือ "หอพระไตรปิฎก" แล้วเราก็หยุดสักการะแป๊บนึง

เดินต่อไปยัง "หอพระแก้วมรกต" ซึ่งเป็นองค์จำลองนะครับ อยู่ในตู้กระจกอย่างดี มีอัญมณีวางประดับด้านล่าง เป็นอะไรที่งดงามมาก

สำหรับภายในวัดจะมีจุดที่น่าสนใจเพียงเท่านี้ เดี๋ยวเราจะออกไปด้านนอกวัดเพื่อไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้ ๆ วัดกันบ้าง (แต่ละที่เป็นส่วนหนึ่งของวัดอยู่นะครับ เพียงแต่อยู่แยกออกไปแต่ละส่วนเท่านั้น) และสถานที่แรกที่ใกล้วัดที่สุด ก็คือ วิหารจตุรมุข (วังมัจฉา)

วิหารจตุรมุข (วังมัจฉา)
วิหารจตุรมุข (วังมัจฉา) เป็นวิหารเก่าแก่อยู่กลางน้ำ ภายในมีพระพุทธรูปปางนาคปรก มีปลาแหวกว่ายอยู่รอบ ๆ วิหาร ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการทำบุญให้อาหารปลา (อาหารปลาจำพวกขนมปังเปล่า ๆ หรือ จะซื้ออาหารปลามาให้ก็ได้ครับ)

การเดินทางไป วิหารจตุรมุข (วังมัจฉา) เราสามารถเดินไปได้นะครับ ไม่ต้องนั่งรถ โดยให้เราเดินผ่านร้านขายของที่ระลึกไป ก็จะเจอกับลานจอดรถ และบันไดทางขึ้น วิหารจตุรมุข (วังมัจฉา)

หลังจากที่เราสักการะพระพุทธรูปภายในวิหารจตุรมุข (วังมัจฉา) และให้อาหารปลา เรียบร้อยแล้ว จุดท่องเที่ยวต่อไปที่ผมจะพาเพื่อน ๆ ไป นั่นก็คือ "พระนอน" ครับ จะมีอะไรบ้าง ตามมาให้ไว

พระนอน
พระนอน เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เพราะที่แห่งนี้มีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน องค์ใหญ่บิ๊กเบิ้ม อยู่ภายในวิหาร 1 องค์ และ อยู่ภายใต้ศาลาอีก 1 องค์ พร้อมทั้งพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา มาสักการะบูชากันอย่างเต็มอิ่ม

พระพุทธรูปที่อยู่ใต้ศาลา นอกวิหาร ก็สวยงามไม่แพ้กัน

พระพุทธรูปปางมารวิชัย รอให้ทุกท่านมาสักการะอยู่นะครับ

บริเวณรอบ ๆ วิหารก็งามมาก

หลังจากที่เราสักการะพระนอน และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะไปยัง วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว กันครับ

วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว
วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว เป็นวิหารสไตล์จีน ด้านหน้ามีสระน้ำ มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมและสาวก ที่ทำมาจากหยกขาว แกะสลักอย่างประณีตตั้งอยู่

ด้านนอกตัววิหารศิลปะสไตล์จีน สวยงามมากครับ

นอกจากจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมแล้ว ยังมีป้ายเต่าอยู่ด้านหน้าวิหารด้วย

ศาลาในบริเวณวิหาร ทำซะแหลมเชียว

ภายใน วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว

พระพุทธรูปจีน 4 องค์ จะขอลาภ ของาน ขอเงิน เชิญตามใจครับ

หากเราเดินไปฝั่งตรงข้ามกับ วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว เราจะพบกับรูปปั้น ซุนหงอคง ให้สักการะด้วยครับ

ถัดจากนี้ผมจะพาไป อุทยานปฐมเทศนา รูปปั้นพระพุทธเจ้ากำลังแสดงปฐมเทศนาแก่เหล่าสาวก ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 นั่นเอง

อุทยานปฐมเทศนา
อุทยานปฐมเทศนา เป็นสถานที่ที่เหมือนจะไม่ค่อยมีคนเข้าไป เพราะสภาพพื้นที่ ณ ช่วงที่ผมไปนั้นมีแต่เศษใบไม้ กิ่งไม้ เต็มถนนไปหมด ไร้ซึ่งรอยล้อรถใด ๆ สถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยสะดวกในการถ่ายภาพสักเท่าไหร่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่ารกครับ ใครที่มาแล้วอยากได้ภาพ ก็ลองเบียด ๆ แซะ ๆ ต้นไม้แถวนั้นเพื่อเข้าไปเก็บภาพแบบผมเอาแล้วกัน เอ้า ไปดูภาพที่ถ่ายกันครับ

ต่อไปเราจะไปสักการะ เจดีย์พุทธคยา องค์จำลองกันครับ

เจดีย์พุทธคยา (จำลอง)
เจดีย์พุทธคยา หรือ เจดีย์โพธคยา เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา เนื่องจากเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แต่ครั้นจะให้เดินทางไปอินเดียก็ดูจะลำบากเกินไปสักหน่อย ดังนั้นทางวัดอนาลโย จึงทำการสร้าง เจดีย์พุทธคยาจำลอง เอาไว้ให้ผู้ที่มีความศรัทธามาสักการะบูชากันที่นี่ครับ สวยงามแค่ไหน เชิญทัศนาได้เลย

บริเวณด้านหน้า เจดีย์พุทธคยา มีเจดีย์พระพรหม 4 หน้า ตั้งอยู่ครับ

ภายใน เจดีย์พุทธคยา จะมีพระพุทธรูปหินอยู่ภายใน แต่ก่อนจะเจอพระพุทธรูปหิน ต้องผ่าน พระพุทธรูป 2 องค์ด้านหน้าก่อน

เข้ามาด้านในเจดีย์ รู้สึกเย็นและอับชื้นมากครับ เพราะภายในเป็นปูนทั้งหมด สักการะพระพุทธรูปกันสักหน่อย

นอกจาก เจดีย์พุทธคยา องค์จำลองแล้ว ในบริเวณนี้ยังมี วิหารพระเจ้าทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่โดดเด่นด้านการให้พรแบบทันใจตามชื่อเสียงของท่านนั่นเอง ใครอยากได้อะไรก็ลองขอพรท่านดูนะครับ

วิหารพระเจ้าทันใจ
วิหารพระเจ้าทันใจ แต่เดิมมีหลายหลังครับ แต่ช่วงเวลาที่ผมไปนั้น บางหลังถูกไฟไหม้ไปแล้ว ยังคงเหลือเพียง 1 หลังที่ยังไม่ไหม้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ เจดีย์พุทธคยา สามารถเดินมาหากันได้

ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของ พระเจ้าทันใจ ครับ เร็ว ๆ รีบขอพรเร็วเข้า ได้ทันใจแค่ไหน ต้องลองแล้วหละ

ถัดจาก วิหารพระเจ้าทันใจ ผมจะพาเพื่อน ๆ เดินชม ศาลาอัมพะวัน (หมอชีวกโกมารภัจจ์ หมอประจำตัวของพระพุทธเจ้า) กันครับ

ถัดจาก ศาลาอัมพะวัน แล้วเดินสำรวจพื้นบริเวณนี้อีกสักพักก็ได้พบกับ หอนาฬิกา ขนาดสูงใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าให้เราถ่ายรูปเล่น

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อเราเดินลึกเข้าไปอีก เราจะพบกับ วิหารพระสังกัจจายน์ (ที่จริงไม่รู้ว่าชื่ออะไร เห็นมีพระสังกัจจายน์ อยู่ในศาลาก็เลยเรียกตามนั้น)

ถัดจาก วิหารพระสังกัจจายน์ เมื่อเดินลึกเข้าไป ก็จะพบกับรูปปั้น พระพุทธเจ้าปางประสูติ

เดินต่อไปอีกหน่อย จะพบกับสระน้ำ

และเมื่อเดินเลยสระน้ำมา ก็จะพบกับรูปปั้น พระพิฆเนศ ให้เราสักการะบูชา ขอพรกันไป ตามระเบียบ

เมื่อถ่ายรูปบริเวณนี้อย่างหนำใจแล้ว เราจะเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไปคือ พระพุทธลีลาปางประจำพระชนมวาร กันครับ

พระพุทธลีลาปางประจำพระชนมวาร
พระพุทธลีลาปางประจำพระชนมวาร เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของในหลวง ร.9 ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 มีความสูงประมาณ 25 เมตร ทำจากทองเหลือง ยืนเด่น ยิ่งใหญ่มาก ใครได้มาวัดอนาลโย แนะนำว่าอย่าลืมถ่ายภาพคู่กับพระพุทธรูปองค์นี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย โอกาสดี ๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะ

ตอนนี้เราก็ได้เที่ยวเก็บภาพกันอย่างเต็มที่แล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับบ้านแล้วหละ สำหรับเพื่อน ๆ สายบุญท่านไหน ที่อยากลองสัมผัสกับความสวยงามของสถาปัตยกรรม วัดอนาลโย จ. พะเยา สามารถมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีนะครับ (ถ้าไม่มีโควิด)

คลิป วัดอนาลโยทิพยาราม
(Coming Soon)

พิกัด วัดอนาลโยทิพยาราม

การเดินทาง
เริ่มจาก สี่แยกแม่ต๋ำ ซึ่งเป็นแยกที่ Google รู้จัก ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 23 นาที โดยให้เราขับรถไปตามทางที่ Google แนะนำได้เลย

ช่วงท่องเที่ยว: ตลอดทั้งปี
เวลาเปิด - ปิด: 8:00 - 17:00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์)
ค่าใช้จ่าย: ฟรี ไม่มีค่าเข้าชม
* หมายเหตุ หากต้องการรถ 2 แถวนำเที่ยว จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ xxx บาทต่อเที่ยว (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) สามารถไปด้วยกันหลายคนหารค่ารถได้ครับ

Share this

Related Posts

Latest
Previous
Next Post »